ข่าวสารบริษัทล่าสุด

การดูแลบำรุงรักษารถยนต์หลังจากติดตั้งแก๊สรถยนต์ [2012-09-17]

การบำรุงรักษารถยนต์นั้น ไม่ว่าท่านจะใช้น้ำมันหรือแก๊สต้องบำรุงรักษากันทั้งนั้น ยิ่งถ้าใช้แก๊สแล้วต้องดูแลเป็นพิเศษ(ดูแลแบบ..กิ๊ก) ค่อยมั่นดูโน้นดูนี้  เช่น ร้อนไปป่่าว หิวน้ำไหม เหนื่อยหรือป่าว พักก่อนนะ อะไรทำนองนี้ รับรอง (เครื่องยนต์)  อยู่กันยาว ตามธรรมชาติของคนเราถ้าไม่สบายจะมีอาการ และคนพูดได้เขียนได้ แต่เครื่องยนต์มันพูดไม่ได้ แต่ชอบแสดงออก ถ้าชิ้นส่วนใดมีปัญหาหรือเสื่อมเปลี่ยนก่อนที่มันจะเสียหรือเสื่อม  สิ่งที่ต้องดูแลมีอะไรบ่าง เรามาดูกัน

1.ระบบระบายความร้อน อันนี้สำคัญมากเป็นสิ่งเตื่อนเราเลยว่า เครื่องมีปัญหาแน่ถ้าความร้อนขึ้นสูง โอกาสเครื่องพังทันตาเห็น ค่าซ่อมหลักหมื่น ถ้ามีความร้อนขึ้นสูง เช็คหม้อน้ำ,วาล์วน้ำ,ปั้มน้ำ,พัดลมระบายความร้อน,ฝาปิดหม้อน้ำ ตัวไหนเสื่อมหรือเสีย ให้รีบเปลี่ยนทันที่ โดยไม่ต้องรอ อาการบอกเหตุ เปิดแอร์แล้วไม่ค่อยเย็น,จอดอยู่กับที่แอร์ไม่เย็นพอรถวิ่งแอร์เย็น,ในหม้อพักน้ำหายเติมบ่อย (ยกเง้นหม้อพักน้ำรั่ว)

2. ควรตรวจสอลวาล์วในระยะ 40,000-60,000 กิโลเมตร หรือ ถ้าใช้น้ำมันหรือแก๊สเครื่องยนต์สั่น รถไม่กำลัง วิ่งไม่ออก รอบสูงแต่รถไม่วิ่งเท่าที่ควร ใช้เช็คทันที่ ถ้าวาล์วมีปัญหา เช่น วาล์วยัน,วาล์ลรั่ว,วาลวไหม้,วาล์วคด,บ่าวาล์วทรุด ให้รีบแก้โดยด่วน

3. ตวรจสอบรอยรั่วของแก๊ส ตามจุดต่าง ๆ ตามระยะเวลา เช่น 3,6,12 เดือน ถ้ารถใช้เกินกว่า  1 ปี หรือ 50,000-100,000 กิโลเมตร ตรวจท่อส่งน้ำ,ท่อส่งแก๊ส,สาย Map ของแก๊ส,หม้อต้มแก๊ส,โอริง,สายไฟหรือขั้วต่อต่าง ๆ  ที่เกี่ยวกับแก๊ส ถ้าเสื่อมภาพแข็งตัว,ชำรุด, ให้เปลี่ยนทันที

4. ตรวจสอบถังแก๊ส หัวเติมแก๊ส ตามจุดต่อต่าง ๆ ของท่อแก๊สที่ต่อไปยังถังหรือหัวเติม ถ้าท่อแก๊สหรือหัวเติมรั่วหรือเติมแก๊สไม่เข้า แก้ไขหรือเปลี่ยนอุปกรณ์,เช็คโซลินอย์ดถัง ถ้ามีรอยร้าวที่ตัวมัน ส่วนใหญ่จะเป็นมากในรถที่ติดใต้ท้องรถ รีบเปลี่ยน ไม่งั้นอาการจะดับกลางอากาศ

5. ในกรณีที่แก๊สรั่วหรือได้กลิ่นแก๊สเข้ามาห้องโดยสาร ให้ใช้น้ำมันอย่างเดียว ระบบแก๊สขะถูกปิด หรือปิดวาลวถังแก๊ส รีบนำรถมาแก้ไขโดยด่วน

6. หัวเทียน ควรเปลี่ยนเร็วกว่ากำหนด การใช้แก๊สจะเกิดความร้อนสูงขึ้นภายในห้องเผาใหม้ ข้อแนะนำ แล้วแต่ท่านจะเลือก ปัจจุบันค่ายรถส่วนหนึ่งได้ใช้หัวเทียนชนิด Iredium แบบหัวเข็มให้กับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ หัวเทียนบางยี่ห้อได้ออกแบบมาสำหรับการใช้แก๊สโดยเฉพาะ  (เนื่องจากแก๊สจุดไฟได้ยากกว่าน้ำมัน ) ซึ่งทนต่อความร้อนได้สูงกว่าหัวเทียนแบบอื่น ๆ และมีความคงทนอายุการใช้งานหลานเท่าตัวเมื่อเทียบกับแบบธรรมดา ราคาก็แพงกว่าธรรด๊าธรรมดานะครับ

7. ไม่ควรให้น้ำมันในระบบ น้อยกว่าปกติ ควรมีอย่างน้อย หนึงในสี่ ของถัง  ในกรณีที่เติมน้ำมันเต็มถังควรใช้น้ำมันให้สลับเป็นครั้งคราว ป้องกันไม่ให้น้ำมันบูด กอฮอล์ที่ผสมกับน้ำมันจะระเหยออกจากถัง จะทำให้น้ำมันบูด(เสีย)ได้ อาจจะทำให้หัวฉีดน้ำมันมีปัญหา เครื่องยนต์สั่นขณะใช้น้ำมัน วิธีสังเกตุ จะมีกลิ่นออกทางท่อไอเสีย ไม่แน่บางทีถึงขั้นต้องถอดถังมาล้าง หรือถ้าเปิดฝาถังน้ำมัน พ่อคุณเอ๊ย เหม็น.......หาย

8. น้ำมันเครื่อง,น้ำมันเกี่ยร์,น้ามันเฟื่องท้าย(ถ้ามี) ให้เปลี่ยนเร็วกว่ากำหนดอายุการใช้งาน เนื่องจากความร้อนที่เกิดขึ้นจากการใช้แก๊ส จะมีผลต่อความหนืดของน้ำมันดังกล่าว ทำให้ค่าเสื่อมเร็วกว่าปกติ ควรใช้ประมาณ 80% ของอายุใช้งานจริง 100% เช่น น้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์แท้เปลี่ยนที่ 10,000 กิโลเมตร ควรเปลี่ยนประมาณ 8,000 กิโลเมตร น้ำมันเกี่ยร์ถ้าสเปคเปลี่ยนที่ 40,000 กิโลเมตร ควรเปลี่ยนประมาณ 30,000กิโลเมตร ต้นๆ จะได้ยืออายุท่าน ไม่ใช่จร้า อายุเครื่องยนต์

9. กรองอากาศ ควรเปลี่ยนหรือเป่ากรองตามระยะเวลาที่กำหนดตามอายุการใช่งานแล้วแต่ยี่ห้อ การตันของกรองอากาศ อาจทำระบบเครื่องยนต์กินน้ำมันหรือแก๊สมากกว่าปกติ การใช้กรองเปลื่อยอาจจะทำให้อากาศไหลเข้าได้มากกว่ากรองแบบทั่วไป มีผลทำให้การปรับจูนแก๊สมากกว่าเดิม ทำให้สิ้นเปลื่องโดยใช่เหตุ

10. ข้อนี้สำคัญมากครับ ถ้าเกิดกรณีไฟใหม้ขญะขับรถ ตั้งสติให้ดี จอดข้างทาง ปิดสวิชท์กุญแจรถ วาล์วถังและติ๊กแก๊สหม้อต้มจะไม่ทำงาน ถ้าเป็นระบบวาล์วังไฟฟ้าที่ใช้โวลินอย์ด จะมีแก๊สค้างท่อจากหลังไปหน้าเท่านั้น  ถ้า (ควร) มีถังดับเพลิงในรถ ใช้ให้เป็นประโยชน์ แต่ถ้าไฟใหม้แรงหรือฉีดดับเพลิงแล้วเอาไม่อยู่ ข้อแนะนำ วิ่งสู้ฟัด ตัวใครตัวมันครับเจ้านาย